หวยใหม่ แอล 6-เอ็น 3 สู้โก่งราคา-ดูดเงินเข้ารัฐ?

: วันที่ 21 กรกฎาคม 2566 : 26389 ครั้ง

‘หวยใหม่’ แอล 6-เอ็น 3 สู้โก่งราคา-ดูดเงินเข้ารัฐ?

หลังจากเป็นกระแสมานาน ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 2566 คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างประกาศเกี่ยวกับการออกรางวัลสลากกินแบ่งรวม 3 ฉบับ คือ 1.ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก (เอ็น 3) พ.ศ. …. 2.ร่างประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่อง กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลหกหลัก (แอล 6) และ 3.ร่างประกาศสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เรื่อง กำหนดประเภทและรูปแบบสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลขสามหลัก ซึ่งเป็นไปตามมติของ ครม.ที่เห็นชอบในหลักการการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ สลากกินแบ่งรัฐบาล 6 หลัก (แอล 6) และสลากกินแบ่งรัฐบาล ตัวเลข 3 หลัก (เอ็น 3) ไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2566

โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแก้ปัญหา ขายสลากเกินราคา!!!

แต่ในทางปฏิบัติเป็นอย่างไร ไม่ต้องรอนาน เมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา คณะกรรมการ (บอร์ด) สลากกินแบ่งรัฐบาล ได้ดำเนินการต่อโดยหารือรายละเอียดเกี่ยวกับสลากแอล 6 อาทิ การกำหนดวันเวลาที่จะเปิดจำหน่าย จำนวนสลากดิจิทัลให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการได้ภายในเดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 นี้ เนื่องจากขั้นตอนการดำเนินการไม่มีความซับซ้อน และสามารถกำหนดจำนวนสลากดิจิทัลได้ โดยไม่ต้องพิมพ์สลากใบแล้ว จากเดิมสลากดิจิทัลต้องพิมพ์สลากเป็นใบก่อน แล้วจึงนำมาสแกนเป็นสลากดิจิทัลอีกครั้ง

รวมทั้งจะเป็นการลดกรอบข้อจำกัด การพิมพ์สลากสูงสุดเพียงงวดละ 100 ล้านใบต่องวด แต่จะมีสลากดิจิทัลเพิ่มเข้าได้ไม่จำกัด โดยปัจจุบันสำนักงานสลากฯมีการขายสลากรูปแบบใบ 80.4 ล้านฉบับ และดิจิทัล 19.6 ล้านฉบับ อย่างไรก็ดี จำนวนสลากทั้งแบบใบและดิจิทัลนั้นยังคงมีการพิจารณาให้เหมาะสมสอดคล้องกับตลาดการซื้อขายสลากให้มากที่สุด ซึ่งในปี 2566 มีเป้าหมายเพิ่มสลากดิจิทัลที่ 30 ล้านใบ ปี 2567 ที่ 40 ล้านใบ และปี 2568 ที่ 50 ล้านใบต่องวดสำหรับปัจจุบันรายได้หลักของสำนักงานสลากฯมาจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นหลัก

โดยล่าสุด ผลการดำเนินงานในปี 2565 ของสำนักงานสลากฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น จำนวน 168,759.37 ล้านบาท (ยังไม่หักค่าใช้จ่ายและส่วนที่ต้องนำส่งรัฐบาล) ประกอบด้วย รายได้จากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 168,537.64 ล้านบาท รายได้งานรับจ้างพิมพ์ จำนวน 5.95 ล้านบาท และรายได้อื่น จำนวน 215.78 ล้านบาท

รายได้รวมเมื่อเทียบกับปี 2564 เพิ่มขึ้น 591.41 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 0.35% เป็นผลมาจากในปี 2565 มียอดการจำหน่ายสลากสูงกว่าปี 2564 จำนวน 9 ล้านฉบับ (ปี 2565 จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2,394 ล้านฉบับ โดยไม่มีสลากการกุศล สำหรับปี 2564 จำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล จำนวน 2,281 ล้านฉบับ สลากการกุศล จำนวน 104 ล้านฉบับ รวม 2,385 ล้านฉบับ)

ทั้งนี้ รายได้สลากนั้นยังไม่มีรายงานที่แบ่งชัดเจนว่าเป็นรายได้จากสลากดิจิทัล เนื่องจากสลากดิจิทัลที่จำหน่ายในทุกวันนี้เป็นเพียงการสแกนจากสลากใบ ซึ่งผู้ซื้อสามารถติดต่อขอรับสลากใบได้ทุกใบจากที่สำนักงานสลากฯ โดยจากผลดำเนินงานสลากดิจิทัลครบรอบ 1 ปี ตั้งแต่งวดวันที่ 16 มิถุนายน 2565-
16 มิถุนายน 2566 นั้นมีการจำหน่ายสลากในช่องทางดิจิทัลผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตังแล้ว 365 ล้านใบ คิดเป็นมูลค่า 2.8 หมื่นล้านบาท

ขณะที่ผลิตภัณฑ์ใหม่อีกตั้ง คือ สลากเลข 3 ตัว หรือ สลากเอ็น 3 ในภาษาชาวบ้านอาจเรียกได้ว่าเป็นการนำหวยใต้ดินมาทำให้ถูกกฎหมาย และกำกับดูแลการขายโดยสำนักงานสลากฯ เนื่องจากรูปแบบ วิธีเล่น และรางวัลถือว่าคล้ายกับหวยใต้ดินที่คอพนันต่างคุ้นเคย โดยรูปแบบการเล่นคือ ให้เลือกหมายเลข 000-999 จำนวน 1 หมายเลขต่อการเลือกซื้อ 1 ครั้ง โดยเลือกได้ซ้ำและไม่จำกัดจำนวน คาดว่าจะจำหน่ายในราคาขายประมาณ 20-50 บาทต่อหนึ่งหมายเลข

มีรางวัลให้ลุ้น 4 รางวัล ได้แก่ รางวัลสามตัวตรง ซึ่งต้องตรงเลข-ตรงหลัก หรือ เต็ง แบ่งสัดส่วน 30% ของเงินรางวัล รางวัลสามสลับหลักตรงเลข-สลับหลัก หรือ โต๊ด แบ่งสัดส่วน 30% ของเงินรางวัล รางวัลสองตรง มีสัดส่วนรางวัล 39% และ รางวัลพิเศษ มีสัดส่วน 1% ของเงินรางวัล

เงินรางวัลทั้งหมดจะนำมาจาก 60% ของยอดขายในแต่ละงวด ซึ่งหากงวดไหนมีคนถูกรางวัลหลายคนจะต้องมาหารเฉลี่ยกัน ตามสัดส่วนวงเงินที่กำหนด ยิ่งคนถูกน้อยก็ยิ่งมีคนหารเงินรางวัลน้อย แต่ยิ่งถูกมากก็ยิ่งหารมาก เงินรางวัลต่อคนก็จะน้อยลง

แต่หากงวดใดไม่มีผู้ถูกรางวัลจะนำเงินรางวัลที่ไม่ได้แจกออกไปมาสมทบเป็นแจ๊กพ็อต โดยสมทบเงินรางวัลได้ไม่เกิน 1 งวด โดยการออกรางวัลออกเดือนละ 2 ครั้ง ทุกวันที่ 1 และ 16 ของเดือน ส่วนวิธีการขายอาจเปิดรับสมัครคนขายใหม่ เช่น ขายผ่านแท็บเล็ต แอพพลิเคชั่น เป็นต้น ทั้งนี้ รายละเอียดอย่างเป็นทางการนั้นยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของบอร์ดสลาก ซึ่งคาดว่าจะสรุปและดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมวางจำหน่ายได้ในช่วงปลายปี 2566-ต้นปี 2567

ทั้งนี้ ในแผนวิสาหกิจสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ประจำปี 2564-2570 (ทบทวนประจำปี 2566) ได้คาดการณ์ผลดำเนินงานไว้ว่า ในช่วงปี 2566-2568 จะมีรายได้จากผลิตภัณฑ์ดิจิทัล ราว 7,900-16,700 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 5-10% ของรายได้ของสำนักงานสลากฯ โดยรายได้ดังกล่าวนั้นคาดว่าคือรายได้จากการจำหน่ายสลากแอล6 และเอ็น 3 ที่กำลังจะเริ่มวางขายให้เร็วนี้

อีกแง่หนึ่งมีความกังวลว่า แก้ปัญหาหนึ่ง เรื่องคุมราคาตามหน้าตั๋วที่กำหนดไว้ แต่เพิ่มปัญหาพนันขันต่อได้มากขึ้นไหม

ย้อนดูรายงานของศูนย์ศึกษาปัญหาพนัน ปี 2565 ระบุว่า ประมาณการจำนวนคนไทยอายุ 15 ปีขึ้นไป จำแนกตามการเล่นพนันในปี 2564 นั้น 5 อันดับแรก แบ่งเป็น อันดับ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล ประมาณการว่ามีจำนวน 24.6 ล้านคน รองลงมาคือ หวยใต้ดิน 19.2 ล้านคน อันดับ 3 คือไพ่พนัน 4.47 ล้านคน อันดับ 4 พนันฟุตบอล 3.83 ล้านคน และอันดับ 5 คือไฮโล น้ำเต้าปูปลา 2.51 ล้านคน

สำหรับ หวยใต้ดิน ซึ่งเป็นรูปแบบการพนันอันดับสองที่คนนิยมไทยนั้นถือว่าเป็นรูปแบบที่คู่ขนานมากับสลากกินแบ่งรัฐบาล เนื่องจากพบว่าคนที่เล่นหวยใต้ดิน จำนวน 72.9% จะเล่นสลากกินแบ่งรัฐบาลควบคู่ไปด้วย และปัจจุบันมีการเข้าถึงหวยใต้ดินที่ง่าย หลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเดิม คือที่เล่นกับคน (เล่นกับเจ้ามือโดยตรง หรือกับคนรับแทง) กลุ่มที่เล่นผ่านช่องทางสื่อสาร (ไลน์/เฟซบุ๊ก) กลุ่มที่เล่นแบบออนไลน์ (เว็บไซต์/แอพพ์พนัน)

มีสถิติความถี่ในการเล่นแยกตามช่องทางพบว่า กลุ่มที่เล่นแบบออนไลน์มีความถี่ในการเล่นสูงกว่ากลุ่มอื่นๆ คือเล่นเฉลี่ย 19 งวดต่อปี ขณะที่กลุ่มที่เล่นกับคนเล่นเฉลี่ย 16 งวดต่อปี และกลุ่มที่เล่นผ่านช่องทางสื่อสารเล่นเฉลี่ย 13 งวดต่อปี ขณะที่เงินที่ใช้ในการเล่นหวยใต้ดิน กลุ่มที่เล่นผ่านช่องทางสื่อสารใช้เงินพนันเฉลี่ย 573 ต่องวด รองมาคือกลุ่มที่เล่นแบบออนไลน์ มีเงินพนัน เฉลี่ย 538 บาทต่องวด ส่วนกลุ่มที่เล่นกับคนใช้เงินพนันเฉลี่ยน้อยที่สุด เฉลี่ยที่ 442 บาทต่องวด ทำให้ศูนย์ศึกษาปัญหาพนันประมาณการว่าวงเงินหมุนเวียนในตลาดพนันหวยใต้ดินปี 2564 อยู่ที่ 1.49 แสนล้านบาท ซึ่งลดลงจากปี 2562 (ปีปกติไม่มีโควิด) 2.1%

ทำให้สลากใหม่ แอล 6-เอ็น 3 ถือเป็นอีกหนึ่งความหวังแก้หวยแพง แถมดึงเม็ดเงินพนันนอกระบบเข้ารัฐได้อีกด้วย

ที่มา : 'หวยใหม่' แอล 6-เอ็น 3 สู้โก่งราคา-ดูดเงินเข้ารัฐ? (matichon.co.th)

 

 

 

 

 



เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ การเข้าชมเว็บไซต์นี้ต่อไปถือว่าท่านยอมรับคุกกี้บนเว็บไซต์และ  นโยบายข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งหมดที่ระบุไว้